รรท.รอง ผบ.ตร.ชี้ สภ.แวงน้อย ต้องรับทำคดี เด็กหญิง ม.2 ถูกโชเฟอร์รถตู้ข่มขืนมอมยาขืนใจจนเสียสติ แม้ยังไม่รู้พื้นที่เกิดเหตุชัด ย้ำทุกโรงพักหาก ปชช.แจ้งความไม่รับดำเนินการเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่
เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท.รองผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีเด็กหญิงวัย 13 ปี นักเรียน ชั้น ม.2 ถูกโชเฟอร์รถตู้หื่นกามมอมยาในน้ำดื่มแล้วข่มขืนจนสลบคารถ ก่อนที่ผู้เสียหายจะไปแจ้งความที่ สภ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น เป็นที่แรก และไปแจ้งความ ที่ สน.บางกอกใหญ่ เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ตำรวจทั้ง 2 โรงพักให้เหตุผลว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบปากคำผู้เสียหายได้ จึงทำให้ครอบครัวผู้เสียหายกังวลใจเกรงว่า ผู้ก่อเหตุจะทำลายพยานหลักฐานภายในรถตู้และหลบหนีไป ซึ่งครอบครัวจะไม่ได้ความเป็นธรรมในที่สุด
โดย พล.ต.ท.ธนา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีการพูดคุยกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และตำรวจภูธรภาค 4 (ภ.4) แล้ว โดย ทาง สภ.แวงน้อย จะต้องเป็นผู้รับแจ้งความ ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีการดำเนินรับแจ้งความไว้แล้ว โดยพนักงานสอบสวนและสหวิชาชีพจะร่วมสอบปากคำผู้เสียหาย ที่ทราบว่ายังรักษาตัวอยู่ ที่ รพ.ใน จ.ขอนแก่น ซึ่งแพทย์จะต้องทำการตรวจร่างกาย ย้ำว่าแม้จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเกิดเหตุอยู่พื้นที่ใด แต่เบื้องต้นต้องให้ทาง สภ.แวงน้อย ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่หากพบว่ามีความเชื่อมโยงกับพื้นที่ใด ทาง สภ.แวงน้อย ก็จะต้องประสานไปยังพื้นที่เกิดเหตุนั้นๆ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
"ตนได้กำชับพนักงานสอบสวนทุก สน.ทั่วประเทศว่าหากประชาชนไปแจ้งความไม่ว่าเกิดเหตุพื้นที่ไหน จะต้องรับแจ้งความไว้ก่อนหากไม่ดำเนินการก็จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่" พล.ต.ท.ธนา กล่าว