top of page

รวบ "โค้ชฟุตบอล-พ.ต.วัยเกษียณ" ขยี้กาม ด.ช.นานนับปี-ถ่ายคลิปข่มขู่

อัปเดตเมื่อ 9 เม.ย.




"ปคม.-ปวีณา" ร่วมกันแถลงจับกุม "โค้ชทีมฟุตบอล-พ.ต.วัยเกษียณ" ร่วมกันก่อเหตุลวง ด.ช.วัย 10 ขวบ ล่วงละเมิดทางเพศนานนับปี แถมพาเข้าโรงแรมหลายแห่งถ่ายคลิปข่มขู่

พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) รวมกับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ร่วมกันแถลงการณ์จับกุม นายสมพร โพธิวันพัง โค้ชฟุตบอล อายุ 43 ปี พร้อม พ.ต.เกียรติศาสตร์ อครมนตรี อายุ 64 ปี ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ซึ่งเป็นอดีตทหารยศพันตรีวัยเกษียณราชการ


โดย นางปวีณา ระบุว่า สืบเนื่องจากมีแม่เด็กชายวัย 10 ขวบ เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อทางมูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยเหลือลูกชายวัย 10 ขวบ และเพื่อนวัยเดียวกัน ที่ถูกโค้ชและผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล 2 คน ร่วมกันข่มขืนและพาตระเวนไปตามโรงแรมต่างๆ เพื่อถ่ายคลิปข่มขู่เป็นเวลานานนับปี จากข้อมูลของมารดาระบุว่า ที่ผ่านมามีโค้ชสอนฟุตบอลชายและผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลยศพันตรี วัย 64 ปี จัดตั้งทีมฟุตบอลเยาวชนชาย มาขอใช้สนามฟุตบอลโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดอุดรธานี เพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกซ้อม ซึ่งจะมีเด็กนักเรียนชายในโรงเรียนอายุ 9-13 ปี สนใจกีฬาฟุตบอลเข้าร่วมสมัครทีมฟุตบอลดังกล่าว


"ก่อนที่เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา เด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 จะเอาเสื้อฟุตบอลไปคืนครูและบอกว่า จะไม่เล่นฟุตบอลอีกแล้ว ครูจึงแปลกใจเพราะเด็กรักในการเตะฟุตบอลมาก จึงได้ถามจน ด.ช.เอ เล่าให้ฟังว่า ถูกนายหนึ่ง (นามสมมุติ) โค้ชฟุตบอล ซึ่งมีอาชีพหลักเป็นข้าราชการ อายุ 43 ปี และนายสอง (นามสมมุติ) อดีตทหารยศพันตรี ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล อายุ 64 ปี ข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนักที่บ้านพักและโรงแรม รวมทั้งถ่ายคลิปไว้หลายครั้ง ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อม หรือเดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ ก็จะถูกข่มขืน" นางปวีณา กล่าว


นอกจากนี้ แม่ของ ด.ช.เอ ยังเล่าอีกว่า เด็กๆ ที่อยู่ในทีมส่วนใหญ่ จะอยู่แบบไปกลับ เมื่อฝึกซ้อมเสร็จก็กลับบ้าน แต่จะมีเด็ก 4-5 คน ที่โค้ดและพันตรีผู้สนับสนุนทีม จะคุยกับผู้ปกครองเพื่อขออุปถัมภ์และให้กินนอนที่บ้านโค้ด


นางปวีณา เปิดเผยต่อว่า ก่อนที่ช่วงวันที่ 30 ก.ค.ถึงช่วงต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โค้ชกับผู้สนับสนุนได้พาเด็กๆ ไปแข่งขัน ที่ จ.บึงกาฬ โดยเปิดห้องพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งหลังการแข่งขันเสร็จ โค้ดกับพันตรีผู้สนับสนุนก็จะเรียกเด็กไปกระทำชำเราที่ห้องพัก ห้องละ 2-3 คน โดยผลัดเปลี่ยนกันกระทำและถ่ายคลิป ซึ่งในจำนวนนั้น ก็มี ด.ช.เอ และ ด.ช.บี ถูกกระทำด้วย


"ซึ่งก่อนหน้านี้เด็กๆ ก็ถูกกระทำระหว่างไปแข่งขันที่ จังหวัดบึงกาฬ เช่นกัน และเด็กอีก 3 คนที่อยู่บ้านโค้ดก็จะถูกผลัดเปลี่ยนกันมาให้โค้ชและผู้สนับสนุนกระทำ บางครั้งเด็ก 4-5 คนก็ถูกสั่งให้มาร่วมวงพร้อมกัน และผลัดกันกระทำทางเพศพร้อมถ่ายคลิปเก็บไว้" นางปวีณา กล่าว


นางปวีณา เปิดเผยต่อว่า ตลอดเวลาเด็กๆ ทุกคนไม่กล้าขัดขืน เพราะโค้ดและผู้สนับสนุนเคยข่มขู่ไว้ว่า จะไล่ออกจากทีมและไม่ให้เล่นฟุตบอลอีก เด็กทุกคนจึงต้องยอมทน เพราะอยากจะเล่นฟุตบอลและอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอล หากใครกลับบ้านหรือหายไปไม่มาฝึกซ้อม โค้ชกับผู้สนับสนุนก็จะไปตามถึงบ้านและรับตัวกลับมากระทำอีก ซึ่งหลังกลับมาจาก จ.บึงกาฬ ด.ช.เอ ก็ไม่ไปฝึกซ้อมและพยายามตีตัวออกห่าง จนกระทั่งวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา โค้ชกับพันตรีผู้สนับสนุนก็มาตามที่บ้าน ยายซึ่งไม่รู้เรื่องก็ยอมให้หลานไปอยู่บ้านโค้ชอีก ด.ช.เอ ก็ถูกกระทำเรื่อยมา จนวันที่ 6 พ.ย. ด.ช.เอ ทนไม่ไหวจึงได้ขอลาออกจากทีมและเอาเสื้อมาคืน

ด้าน ด.ช.บี ซึ่งถูกโค้ชและผู้สนับสนุนกระทำชำเราด้วย เมื่อรู้ว่า ด.ช.เอ ไม่ยอมทนแล้ว จึงออกจากทีมด้วย เมื่อแม่และยายของเด็กชายทั้ง 2 รู้เรื่อง ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะทั้งโค้ชและผู้สนับสนุนเป็นคนกว้างขวาง และรู้จักคนที่มีตำแหน่งใหญ่โต จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเอาผิดโค้ชกับผู้สนับสนุน 2 คนนี้ ให้ดำเนินคดีถึงที่สุด


นอกจากนี้ นางปวีณา ยังระบุอีกว่า หลังได้รับเรื่องแล้ว ได้ดำเนินการนำตัวเด็กไปตรวจสอบ และพบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง จึงมีการประสานมาที่ตำรวจ ปคม.จนนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้

ด้าน พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา 6 ข้อหา ได้แก่ "ร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี, ร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ, ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร, และร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจให้เด็กกระทำอันมีลักษณะลามกอนาจาร" โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา นอกจากนี้ ขณะเข้าจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบคลิปอนาจาร ที่ทั้ง 2 ถ่ายไว้ โดยเจ้าหน้าที่จะขยายผลไปตรวจสอบว่า มีการนำคลิปไปใช้เพื่อการค้าหรือเปิดกลุ่มลับและส่งคลิปไปหรือไม่ เพราะหากมีการกระทำดังกล่าวจริง จะต้องดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เพิ่มเติมด้วย ซึ่งหากตรวจพบว่ามีการเปิดกลุ่มลับจริง ผู้ที่อยู่ภายในกลุ่ม จะต้องถูกดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการทางคดีด้วยเช่นกัน

Comments


bottom of page