โผล่อีก 5 ราย โค้ช-พ.ต.ตุ๋ย พึ่งปวีณาช่วย ต่อจากคดีเก่า

เหยื่อโค้ชบอลกับ พ.ต.อดีตนายทหารผู้สนับสนุนทีมตุ๋ยเด็ก โผล่อีก 5 รายผู้ปกครองพาลูกหลานวัย 10-13 ปี โร่ร้องเรียน “ปวีณา” พาแจ้งความตำรวจ ปคม.ให้ดำเนินคดีเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้มีเด็กชาย 2 คนที่เข้าแจ้งความจนนำไปสู่การ จับกุม แต่ภายหลังผู้ต้องหาได้ประกันตัวกลับไปอยู่ในหมู่บ้านยังส่งข้อความไปหาญาติเด็กให้มาร่วมงาน รับขวัญที่บ้านตัวเอง แม่เหยื่อผวาหนักไม่กล้าแจ้งความ หวั่นอิทธิพลมืด แฉพฤติกรรมอุบาทว์สารพัดทั้งชำเราเด็ก บังคับให้กินน้ำอสุจิอ้างจะได้ตัวสูง แถมให้ถ่ายคลิปตอนช่วยตัวเองส่งให้ดู ด้านกรมคุ้มครองสิทธิอนุมัติเงินเยียวยาให้เหยื่อ 2 รายแรก คนละ 5 หมื่นบาท

ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. กลุ่มผู้ปกครอง 5 ครอบครัวเดินทางจาก จ.อุดรธานี พาเด็กชาย 5 คน อายุระหว่าง 10-13 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ว่า ลูกชายทั้ง 5 คนเคยตกเป็นเหยื่อของนายสมภรณ์ โพธิวันพัง อายุ 43 ปี เกษตรอำเภอ ระดับ 7 จ.อุดรธานี เป็นโค้ชฟุตบอลเยาวชน และ พ.ต.เกียรติศาสตร์ สัจจาอัครมนตรี อายุ 64 ปี นายทหารเกษียณอายุราชการ ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ที่ถูกตำรวจ ปคม.จับกุมดำเนินคดีฐานร่วมข่มขืนกระทำชำเราเด็กและข้อหาอื่นๆรวม 6 ข้อหา เพื่อขอให้นางปวีณาพาเหยื่ออีก 5 คนเข้าแจ้งความตำรวจ ปคม.ให้ดำเนินคดีเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ นางปวีณาได้ช่วยเหลือเด็กชาย 2 คน อายุ 10 ขวบเท่ากันที่ถูกโค้ชและผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลข่มขืนกระทำชำเราและประสานตำรวจ ปคม.จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง

แม่ของเด็กชายอายุ 13 ปี 1 ใน 5 เหยื่อที่เข้าร้องทุกข์ กล่าวว่า หลังรู้ข่าวว่ามีเด็กๆในทีมฟุตบอลถูกโค้ชและผู้สนับสนุนทีมข่มขืนกระทำชำเรา ได้สอบถามลูกชายจนทราบว่า ลูกถูกกระทำตั้งแต่อยู่ชั้น ป.5 เมื่อปี 64 ถูกย่ำยีมานานร่วม 3 ปี แม้จะย้ายไปเรียนชั้น ม.1 ที่โรงเรียนอื่นแล้ว แต่ยังอยู่ในทีมฟุตบอลและไปอยู่บ้านครูเป็นประจำ ขณะที่เพื่อนๆร่วมทีมอีก 4 คนที่เดินทางมาด้วยกันก็ถูกกระทำร่วมกัน ที่ผ่านมา แม่ไม่เคยรู้ว่าลูกต้องทุกข์ทรมาน แต่ด้วยความรักการเตะฟุตบอลจึงไม่กล้าบอกใครเพราะถูกข่มขู่ว่าจะไล่ออกจากทีม ตอนแรกแม่ๆทั้ง 5 คนไม่รู้จะทำ อย่างไรดีเพราะเกรงกลัวอิทธิพลไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากรู้ว่าโค้ชและผู้สนับสนุนทีมรู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ แต่เมื่อเห็นนางปวีณาประสานตำรวจ ปคม.จับกุมทั้ง 2 คนแล้ว จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ

ขณะที่ยายของเด็กชายวัย 10 ขวบ ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ปกครองทุกคนไม่สบายใจเพราะโค้ชฟุตบอลได้รับการประกันตัวออกมาอยู่ที่บ้านในหมู่บ้านเดียวกัน วันแรกที่โค้ชออกมาก็ส่งข้อความมาหาน้าของเด็กว่า “อยากให้ทุกคนและเด็กๆ ไปร่วมงานผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อรับขวัญโค้ชที่บ้าน ข่าวที่ออกไปไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด คิดถึงทุกคน รักทุกคนเสมอ” แต่ยายไม่ได้ไปร่วมงานและไม่เชื่อที่โค้ชพูดเพราะรู้ว่าสิ่งที่หลานถูกกระทำมากกว่าที่เป็นข่าวเสียอีก เช่นเดียวกับแม่ของเด็กชายวัย 10 ขวบอีกคนเผยว่า มารู้เรื่องเพราะลูกผูกเฟซบุ๊กกับแม่ เจอคลิปที่ลูกชายส่งให้โค้ชและผู้สนับสนุนในเมสเซนเจอร์ เพราะผู้สนับสนุนบังคับให้ลูกถ่ายคลิปขณะสำเร็จความใคร่ตัวเองส่งไปให้ดูหลายครั้งและผู้สนับสนุนโอนเงินให้ครั้งละ 20-30 บาท นอกจากนี้ ลูกยังถูกข่มขืนกระทำชำเราร่วมกับเด็กคนอื่นๆ และยังบังคับให้เด็กๆกลืนน้ำอสุจิอีกด้วย อ้างว่าเด็กๆจะได้แข็งแรงและตัวสูง ถูกกระทำมาตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี

นางปวีณากล่าวว่า หลังรับเรื่องได้ประสาน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. เตรียมพาทั้ง 5 ครอบครัว เข้าแจ้งความเพิ่มเติมและให้ข้อมูลกับตำรวจ พร้อมทั้งประสานนายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อร่วมประชุมหาแนวทางช่วยเหลือและป้องกันเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน

ก่อนหน้านี้ที่ตำรวจ ปคม.จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน นางปวีณาได้พาพ่อแม่เด็กชายวัย 10 ขวบเหยื่อ 2 รายแรกไปติดต่อขอรับเงินเยียวยาที่กระทรวงยุติธรรม โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มอบหมายให้นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่องและร่วมประชุมหาแนวทางช่วยเหลือผู้เสียหายทางคดี พิจารณาเงินช่วยเหลือเยียวยาให้อย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ ใช้เวลา 5 วัน ล่าสุด กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรมอนุมัติเงินเยียวยาให้เด็กชายทั้ง 2 คนแล้ว คนละ 5 หมื่นบาท ส่วนเด็กชายอีก 5 คนที่เดินทางมาวันนี้ มูลนิธิปวีณาฯจะช่วยเหลือเด็กและครอบครัวเพื่อดำเนินคดีผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด และจะประสานให้ได้รับเงินเยียวยาผู้เสียหายด้วยเช่นกัน